Sunday, March 13, 2011

ต้องขยาย

เช่นนั้นแหละ


ยะนี้มีเหตุหลายอย่างเกิดขึ้นรายรอบตัว
อันล้วนแต่เป็นวิกฤต
ทั้งเหตุข้อขัดแย้งอันเกิดเกิดจากผู้ร่วมทุกข์บนโลกนี้โดยตรง
เช่น การพิพาทจากผลประโยชน์เล็กน้อย
เรื่อยไปจนเป็นผลประโยชน์มหภาค
ของสรรพผู้รวมทุกข์โดยรวม  ทั้งทางการเมือง  ด้านเศรษฐกิจ
ที่มุ่งประโยชน์ส่วนตนเป็นใหญ่ด้วยกันทั้งสิ้น

โดยมีสังคมผู้คนที่ต้องรับผลจากเหตุข้างต้น
อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง

อีกทั้งยังเกิดวิบัติภัยอันเป็นภัยธรรมชาติที่รุนแรงและคุกคาม
วิถีชีวิตอันสุขสงบเป็นปกติ

แต่ยิ่งน่าวิตกไปกว่าคือ 
การสร้างวิบัติโดยอาศัยมูลเหตุและความรู้จักธรรมชาคิ
มาสร้างความวิบัติ  !!!!
จากข่าวใหญ่ที่โด่งดังไปทั่ว
ถึงโครงการนับหลายพันล้านดอลล่าร์เพื่อการสร้างระบบพิเศษ
อันสามารถส่งผลโดยตรงกับแกนแม่เหล็กของโลก
เมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มประเทศในยุโรปและอเมริกา !!!!
นัยว่าเพื่อการควบคุมบังคับการเคลื่อนตัวของเปลือกโลก

ยังไม่นับรวมกับวิทยาการทางวิทยาศาสตร์และคอมพิวเตอร์
ที่สามารถสร้างหรือบังคับวัฏจักรของธรรมชาติ
อย่างง่ายคือฝนเเทียม เรื่อยไปถึงความชื้น  แรงกดดันต่างต่างๆ
กระทั่งสามารถบังคับหรือกำหนดการเกิดลมหมุน  หรือพายุที่ร้ายแรงเช่นใต้ฝุ่นหรือเฮอร์ริเคน
ที่มีอำนาจทำลายสูง

การใช้ความรู้ทางวิทยาการทางแพทย์และชีวศาสตร์
สร้างอาวุธเชื้อโรค  การวิจัย  ทดลองทางชีวภาพ ทำสิ่งที่เหนือการควบคุม
เกิดเชื้อโรคประหลาดมากมาย  ที่ยังเคลือบแคลงว่า
เป็นผลจากห้องวิจัยหรือไม่  !!!!

เช่นเดียวกับปัญหาการโคลนนิ่ง  ตัดต่อพันธุกรรมทั้งสัตว์และพืช
อย่างเถาวัลย์ยักษ์ที่สามารถปกคลุมทำลายป่าไม้ได้ทั้งป่า !!!!

วิทยาการความก้าวหน้าต่างๆ
ล้วนเป็นดาบสองคม

ที่ จำต้องมีธรรม กำกับควบคุมเสมอ
มิฉะนั้นจะกลายเป็นอาวุธที่ทำลายโลก
ได้อย่างทรงอานุภาพยิ่งขั้น  ยิ่งขึ้น.....
จนยากหยุดยั้ง


เมื่อได้หยุดตรองด้วยสติตามพุทธพจน์
ยิ่งเข้าใจได้ลึกซึ้งถึงคำกล่าวของท่านพุทธทาส
ที่เล็งเห็นการณ์ไกลถึงวิกฤติ
และอันตรายอันเกิดจาก อวิชชาและกิเลสทั้งหลายของสรรพสัตว์อันมีมนุษย์เป็นปฐม
ท่านจึงทิ้งมรดกธรรมสำคัญไว้ว่า
"ศีลธรรมไม่กลับมา   โลกาจะวินาจ"
อันตรงกับพุทธทำนายไม่ผิดเพี้ยน

>>>>>>>>><<<<<<<<<<<<<<