Wednesday, July 10, 2013

ซออี๊

ซออี๊ (สำเนียงจีนแต้จิ๋ว)หมายถึงการปั้นขนมอี๊(จีน:  汤圆 พินอิน: tāngyuán )
หรือที่รู้จักกันในชื่อขนมบัวลอยของไทย
เพราะมีลักษณะเหมือนกันคือเป้นขนมที่ปั้นเป็นก้อนกลม
จากแป้งแล้วนำไปต้มในน้ำเดือดจนสุกลอยขั้นมา

จะมีความต่างกันคือ ขนมอี๊ทานกับน้ำเชื่อมและทานกันแบบร้อน  แต่บัวลอยจะใช้น้ำกระทิทานทั้งร้อนและเติมน้ำแข็งหรือแช่เย็น  และมีสูตรที่นิยมรับประทานอีกอย่างคือ น้ำขิง ทานกันทั้งร้อนและเย็นเช่นกัน

ขนมอี๊ (จีน:  汤圆 พินอิน: tāngyuán ) มีที่มาจากเทศกาลตังโจ่ย หรือ เทศกาลฤดูหนาว (จีน: 冬至; พินอิน: dōng zhì; จีนกลาง: ตงจื้อ, อังกฤษ: Dōngzhì Festival, Winter Solstice Festival จะตรงกับเดือน 11 ตามปฏิทินจีน (เดือนธันวาคม) ซึ่งเรียกว่า เกี๋ยวง๊วย

ในยุคโบราณ ชาวจีนให้ความสำคัญกับเทศกาลตังโจ่ยไม่แพ้วันตรุษจีน เพราะถือเสมือนเทศกาลสิ้นปี ผู้คนจะปิดร้านรวงและบ้านเรือน ทำบุญตามวัดหรือไหว้เจ้า เอกลักษณ์ที่สำคัญในเทศกาลนี้ คือ ผู้คนจะปั้นและกินขนม อี๊
ที่มา วิกิพีเดีย

กิจกรรมที่ร่วมทำกันได้ตั้งแต่เด็กเล็กที่เริ่มรู้ความไปจนถึงผู้อาวุโสวัยชรา
คือการช่วยกันปั้นแป้งให้เป็นก้อนกลมๆ 

เรื่องราว..หลากหลาย
จากปากคำของผู้เฒ่า ระหว่างการนั้งล้อมวง
ช่วยกัน ซออี๊
เพื่อใช้ไหว้เทพเจ้าในเทศกาล

ขนมอี๊หวานหอมร้อนๆ
สร้างความอบอุ่นและอิ่มท้อง
ท่ามกลางฤดูกาลอันหนาวเหน็บ

สร้างความสุข
ความใกล้ชิด  ความสมัครสมาน
เช่นเดียวกับก้อนแป้งกลมๆ 
ที่ร่วมวงช่วยกัน..ปั้น..
ความผูกพันในครอบครัว...


ซออี๊   จึงกลายเป็นกิจกรรมสำคัญหนึ่งในงานแต่งงาน
นอกเหนือจากการซออี๊ในเทศกาลตังโจ่ย

โดยคืนก่อนงานมงคล
บรรดาญาติสนิทมิตรสหาย
เพื่อนบ้าน และผู้นิยมนับถือ  รักใคร่
ต่างมาร่วมกิจกรรมนี้

เสียงพูดคุย  ทักทาย  หยอกล้ออย่างสนุกสนาน
เปี่ยมด้วยความสุข
ทั้งบ้านฝ่ายชาย  และฝ่ายหญิง
ได้ร่่วมกันสร้างความกลมเกลียว 
กระชับมิตรสัมพันธ์ให้เหนียวแน่น


ขนมอี๊ ( 汤圆 ) จึงนิยมเจือสีชมพู  แดง
ตัวแทนของความสดชื่น  สมหวัง

เป็นบทเรียนแรกให้กับผู้ที่จะสรางครอบครัวใหม่
นับแต่โบราณมา



 -----
วิธีทำขนมอี๊ :

No comments: